
การเมืองการปกครองของนครรัฐวาติกัน เป็นไปในกรอบของ สมบูรณาญาสิทธิเทวราชย์(absolute theocratic monarchy) โดยพระสันตะปาปาทรงเป็นพระประมุขศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหารและอำนาจตุลากรเหนือนครรัฐวาติกัน(Vatican City)
พระสันตะปาปาในฐานะผู้มีบทบาททางศาสนาได้เข้าครอบครองส่วนต่างๆของคาบสมุทรอิตาลีมานานกว่าพันปีกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 หลังจากนั้นรัฐต่างๆของพระสันตะปาปาได้ถูกราชอาณาจักรอิตาลีที่ตั้งขึ้นมาใหม่เข้ายึดครอง ในปี ค.ศ. 1870 รัฐต่างๆของพระสันตะปาปาถูกยึดมากขึ้นเรื่อยๆแม้กระทั่งโรมก็ถูกผนวกเข้าไปอยู่ในอาณาจักรอิตาลี ความขัดแย้งระหว่างพระสันตะปาปาที่ทรงถูกปิดล้อมและอาณาจักรอิตาลียุติลงได้ในปี ค.ศ.1929 โดยได้มีการลงนามในสนธิสัญญา 3 ฉบับ (Lateran Treaties) อันมีผลให้มีการสถาปนารัฐเอกราชคือนครรัฐวาติกันขึ้นมาและให้สถานภาพพิเศษของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศอิตาลี ในปี ค.ศ.1984 ได้มีข้อตกลงระหว่างรัฐวาติกันกับรัฐบาลอิตาลีทำการแก้ไขบทบัญบัติเดิมของข้อตกลงบางข้อรวมทั้งข้อที่กำหนดให้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นศาสนาประจำชาติของอิตาลีด้วย ปัจจุบันนครรัฐวาติกันได้ให้ความสนใจปัญหาของเสรีภาพในการนับถือศาสนา ปัญหาของเหตุการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ ปัญหาตะวันออกกลาง ปัญหาลัทธิก่อการร้าย ปัญหาการเจรจาและการประนอมระหว่างศาสนา การใช้หลักคำสอนทางศาสนาเพื่อแก้ไขปัญหาในยุคการแปลงแปลงและยุคลาภิวัตน์ เป็นต้น ปัจจุบันมีศาสนิกชนนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกประมาณ 1,000 ล้านคน
No comments:
Post a Comment